ใช้ใจฉันแลกใจเธอ

ปั่นแลกใจ ปัตตานี นราธิวาส ยะลา 

เพิ่งได้รู้และเข้าใจว่าทริปนี้เราไม่ได้มาปั่นจักรยานเล่นเหมือนเคย แต่เป้าหมายคือการเรียนรู้เขาและเรา คนในพื้นที่ และคนนอกพื้นที่  จักรยานสำหรับทริปนี้เป็นแค่เครื่องมือให้เราเดินทางไม่ช้าเกินไม่เร็วเกิน สัมผัสความจริงความรู้สึกในพื้นที่ ความต่างที่เคยได้ยินเขาเล่าได้อ่านผ่านตัวหนังสือหรือได้เห็นภาพนิ่งและเคลื่อนไหว ทริปนี้เป็นโครงการต่อเนื่องจาก 2 ปีก่อน ที่ปั่นจากแม่สายเบตง ระยะเวลา 38 วัน สำหรับทริปนี้แค่ 10 วัน หลังจบทริปจักรยานทั้งหมดจะนำไปขายเพื่อเป็นทุนการศึกษา มอบให้แก่ รร.พระดาบส ตั้งเป้าไว้น่าจะได้ 1 ล้าน

เสียงจากพี่เติร์ด ทหารที่เคยอยู่ในพื้นที่ถึง 2 ปี เล่าว่าตอนนั้นพี่ก็เตรียมมารบเต็มที่ ปล่อยให้ลูกกับแม่ของลูกอยู่กรุงเทพกันสองคน แต่เมื่อมาประจำอยู่ที่นี่พี่มีแต่เพื่อน และพี่ก็เคยยืนเป็นทหารตัวเล็กๆ ตากแดดตากลมข้ามวันกินข้าวในใบไม้ ใช้ชีวิตในป่า แทบไม่ได้พูดกับใคร เวลาเราลงพื้นที่เราต้องขนของให้น้อยที่สุด คล่องตัวให้มาก แต่ทหารก็มีวันพักนะ ในแต่ละวันจะได้พัก 12 ชัวโมง เราจะทำหน้าที่กัน 30 วัน พักยาว 10 วัน ช่วงเวลานั้นก็กลับบ้านหรือไปเที่ยวก็ตามใจ 

บ้านพักในค่ายของทหารพราน หนึ่งหลังนอน 2 คน ที่ค่ายมีอาหารให้กินอิ่ม มีเมนูที่หลากหลาย หลายค่ายมีผักสวนครัวของตัวเอง แบ่งหน้าที่กันดูแล ใครชอบเลี้ยงสัตว์ก็สามารถเลี้ยงได้ นกเขา ไก่ ปลา กุ้ง ก็ตามใจ มีครัวส่วนกลางใหัทำเอง เครื่องซักผ้า ตู้เย็นก็มี อ๋อ มีร้านค้าสวัสดิการเล็กๆให้ซื้อขนม ตัดผม 

สำหรับทหารที่มาใหม่ก็อบรมให้รู้ภาษาท้องที่ มารยาทที่ควรทำ และวัฒนธรรม ทหารที่เราคุยด้วยหลายคนสามารถเล่าได้ลึกเหมือนว่าเป็นไกด์พาเที่ยวได้สบาย

มิตรภาพที่พี่ทหารใช้ใจฉันแลกใจเจอตลอดทริปที่เราได้สัมผัสชัดๆ ก็คนพื้นที่ที่มาต้อนรับมาดูแลคณะ ซื้อขนมน้ำ เปิดบ้านให้พัก นำการแสดงมาให้ชม พาไปชมสถานที่ท่องเที่ยวของดีของอร่อยในพื้นที่ก็จัดหามาให้ได้กินไม่แค่อิ่มแต่ยังสามารถพกไปกินระหว่างทางปั่นได้อีก หลายคนเป็นผู้ใหญ่ในพื้นที่ก็คงไม่แปลก แต่ที่ประทับใจก็คนธรรมดาแบบเราๆ ที่ทำค้าขายปกติแต่ชอบปั่น รู้สึกที่นี่แหละคือบ้าน มีความสุขที่จะพัฒนา สร้างสรรค์ ส่งเสริม ดีใจที่คนมาเที่ยว และอยากให้กลับมาซ้ำอีก กำนันมะอัยเยอร์เวง เบตง โกยี พี่อี๊ดปัตตานี โกเอ็กซ์ โกช้างเบตง พี่สุชาดาสุไหงโกลก ฯลฯ ทุกคนเป็นคนพื้นที่ทั้งปั่นและไม่ปั่น รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่ได้มาร่วมทริปนี้ ได้เห็นได้สัมผัสความรู้สึกดีๆที่มีให้กัน ทั้งคนในให้คนนอก และคนนอกให้คนใน น่ารักอบอุ่น สวยงาม ธรรมชาติสมบูรณ์พร้อม ต่างภาษา ต่างศาสนา ต่างวัฒนธรรม เป็นเพื่อนกันได้

 

ทหารลงไปคลุกคลีกับคนพื้นที่ กินอยู่หลับนอน ศึกษาเรียนรู้วิถีชีวิต วัฒนธรรม ความคิด ความเชื่อ เล่นกับเด็ก จัดกิจกรรม ตั้งวงเสวนา ปรับความเข้าใจ เพื่อที่จะอยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจกัน

อยากบอกว่าปั่นแลกใจยังรวมถึงคนในทริปด้วย พี่บังเลาะ น้องลี ที่สนิทมากๆ ในทริป พวกเขาก็ต่างศาสนากับเรา ปั่นไปเรียนรู้กันไปสิบกว่าวัน ก็เริ่มเข้าใจ เขาและเรามากขึ้น ง่ายๆอย่างคำทักทายที่เราเคยใช้ สวัสดี พี่บังเลาะก็สอนว่าลองทักทายเป็นภาษาพื้นที่ดูสิอัสลามูอาลัยกุมแต่กว่าจะฟังเข้าใจก็ออกเสียงผิดตั้งหลายรอบ แก้อยู่หลายที ออกเสียงอยู่หลายวันคิดว่าแปลว่าสวัสดี กว่าจะรู้แปลว่า ขอความสันติสุข หรือความสุข จงมีแด่ท่าน ก็ผ่านไปหลายวันคืน 

เรื่องดีๆ แบบที่เราพบเจอก็คงต้องใช้เวลาให้ทุกคนได้มาสัมผัสเองเช่นกัน ปัตตานี ยะลา นราธิวาส พร้อมต้อนรับ รอทุกคนแวะมาสัมผัสอยู่นะ